Sapiens : เรื่องของสัตว์ที่กลายเป็นพระเจ้า

ลองยกมือของคุณขึ้นมากางนิ้วดู-คุณเห็นอะไร

คุณอาจเห็นมือเป็นมือ เห็นนิ้วมือ เห็นเล็บ อาจเห็นเส้นลายมือ และหากเพ่งดีๆ ก็อาจเห็นรอยก้นหอยของลายนิ้วมือที่ไม่มีใครเหมือนกันเลย

แต่คุณเห็นการดิ้นรนต่อสู้และความเป็นมาของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า-มนุษย์, อยู่ในนั้นไหม

ในหนังสือเล่มนี้ ภาพแรกที่ปรากฏ-คือภาพพิมพ์รูปมือของมนุษย์อายุสามพันปี บนผนังถ้ำโชเว ปงต์ ดาร์ก (Chauvet–Pont–d’ Arc Cave) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ผู้เขียนเล่าถึงภาพนี้ และบรรยายภาพไว้สั้นๆว่า 

บางคนคงอยากจะบอกว่า “ฉันอยู่ที่นี่”

ใช่แล้ว-ฉันอยู่ที่นี่ ผมอยู่ที่นี่ คุณอยู่ที่นี่ เราอยู่ที่นี่ และเป็น ‘มือ’ ของเรานี่เอง ที่ทำให้เราอยู่ ‘ที่นี่’ มาได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

ไม่ได้แค่อยู่เท่านั้น แต่เรายังเป็นสัตว์ที่กลายเป็นพระเจ้าด้วย!

Sapiens คือหนังสือที่ทะเยอทะยาน มันบอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่กำเนิดมนุษย์ การดิ้นรนต่อสู้ ความขัดแย้ง การร่วมมือ ความรุ่งเรืองเฟื่องฟู ฯลฯ โดยพยายามรวบรวมทุกมิติแง่มุมแห่งชีวิตเอาไว้ เพื่อสำรวจย้อนกลับ เพื่อตอบคำถามว่า-ทำไมเราถึงอยู่ ‘ที่นี่’ บนโลกใบนี้ได้ยาวนานขนาดนี้

ทำไมสัตว์ธรรมดาๆสายพันธุ์หนึ่ง ถึงได้กลายเป็น ‘พระเจ้า’ ผู้ครองโลกไปได้?

คำว่า Sapiens แปลว่าฉลาด มนุษย์ในปัจจุบันนั้น นอกจากจะอยู่ในสปีชีส์ Homo sapiens แล้ว ยังถือว่าอยู่ในสปีชีส์ย่อย (subspecies) ที่เรียกว่า Homo sapiens sapiens อีกด้วย จึงฟังดูคล้ายกับว่า มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดและฉลาด หรือฉลาดซ้ำซ้อนกระนั้น

แน่นอน ศัพท์เรียกขานสปีชีส์ตัวเองของมนุษย์ ย่อมได้รับการตั้งขึ้นจากมนุษย์ (ซึ่งก็คือ คาร์ล ลินเนียส ผู้เป็นบิดาแห่งอนุกรมวิธานหรือการจัดจำแนกแยกแยะและตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลก) ด้วยเหตุนี้ ในแง่หนึ่ง ชื่อ Homo sapiens sapiens จึงไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากการยกย่องตัวเองขั้นสูงของมนุษย์ ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ปราดเปรื่องหลักแหลม ซึ่งเอาเข้าจริงก็เป็นอย่างนั้นเสียด้วย เพราะนับตั้งแต่สมัยบรรพกาล แม้ Homo sapiens sapiens ต้องขันแข่งแก่งแย่งกับ ‘มนุษย์’ สายพันธุ์อื่น เช่น มนุษย์นีแอนเดอร์ธัล (ซึ่งบางตำราบอกว่าเป็น Homo sapiens เหมือนกัน แต่เป็นคนละ subspecies) หรือมนุษย์อื่นๆอีกราวหกสายพันธุ์ เราก็เอาชนะมนุษย์เหล่านั้นมาได้อย่างราบคาบ แม้ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเราเป็นผู้ ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ มนุษย์อื่นๆทั้งหมด หรือว่ามีเหตุปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็คือ Homo sapiens sapiens เป็นผู้อยู่รอด,

และกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่กำลังครองโลก!

หนังสือเล่มนี้จูงมือเราย้อนอดีต เล่าถึงกำเนิดของเรา การเอาชนะเผ่าพันธุ์อื่น วิวัฒนาการในทางร่างกาย การล่าหาอาหาร การผันตัวเองมาเป็นสังคมเกษตรกรรม ไล่เรื่อยมาจนถึงการก่อร่างสร้างอาณาจักรและจักรวรรดิ ความคิดทางการเมือง รวมไปถึงการเมืองเรื่องเพศ การสร้างระบบเศรษฐกิจที่ผลักดันให้มนุษย์ค้นพบดินแดนใหม่ๆ กำเนิดของวิธีคิดแบบตลาดเสรี ความเฟื่องฟูของยุโรป รวมไปถึงวิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้มนุษย์อยู่รอดและรุ่งเรืองเฟื่องฟูมาได้จนถึงทุกวันนี้

แน่นอน หนังสือที่รวบรวม ‘ทุกเรื่อง’ เกี่ยวกับมนุษย์ไว้ในเล่มเดียว ย่อมไม่อาจ ‘ลงลึก’ ไปถึงทฤษฎีเศรษฐศาสตร์หรือควอนตัมฟิสิกส์ได้อย่างพิสดาร แต่การอ่านหนังสือเล่มนี้ จะทำให้เราเห็น ‘ภาพกว้าง’ ของความเป็นมนุษย์ทั้งหมด ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่า Homo sapiens sapiens นั้น ถูก ‘ประกอบสร้าง’ ขึ้นมาอย่างไร บนฐานของอะไร

คุณอาจต้องประหลาดใจ-หากได้พบว่าสมมุติฐานหลักของผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ก็คือ ‘ฐานคิด’ ของการที่มนุษย์อยู่รวมกลุ่มกันได้มาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่อะไรอื่น นอกเสียจากเรามี ‘ความเชื่อ’ ใน ‘จินตกรรม’ บางอย่างร่วมกัน นับตั้งแต่ตำนานของกิลกาเมช ตำนานการสร้างโลก ความเชื่อเรื่องพระเจ้า ผู้ปกครอง กระทั่งถึงความเชื่อในระบบตลาดและเงินตรา ระบอบการปกครอง เป็น ‘ความเชื่อร่วม’ นี้เอง ที่ทำให้เราผลักดันตัวเองมาได้จนถึงปัจจุบัน

ทีนี้-ลองยกมือของคุณขึ้นมาดูอีกครั้ง, คุณเห็นอะไร

แน่นอน-คุณเห็นมือ เห็นเล็บ เห็นผิวหนังที่ห่อหุ้มเส้นเอ็นและกระดูก แต่หลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ คุณอาจเห็นบางสิ่งต่างออกไป

คุณอาจเห็นวิวัฒนาการของมือที่เกิดขึ้นควบคู่กับวิวัฒนาการของร่างกายส่วนอื่นๆด้วย ทั้งสมอง การยืนตัวตรง การหยิบจับสิ่งของ เป็นวิวัฒนาการที่ทำให้มนุษย์สามารถใช้ ‘มือ’ เพื่อสร้าง ‘เครื่องมือ’ ต่างๆ จนเอาชนะภัยรอบตัวมาได้ (แม้หลายครั้งจะเป็นการเอาชนะอย่างป่าเถื่อนโหดร้ายก็ตาม) และนอกจาก ‘มือ’ และ ‘เครื่องมือ’ แล้ว คุณอาจได้เห็นถึง ‘ความร่วมมือ’ ของเผ่าพันธุ์ Homo sapiens sapiens ในการเอาชนะโลกด้วย

ฉันอยู่ที่นี่” จึงไม่ใช่เพียงคำประกาศว่า “ฉันอยู่ที่นี่” เท่านั้น แต่มันคือการประกาศว่า-ฉันอยู่ที่นี่ และฉันจะร่วมกันปกครองที่นี่ ฉันจะเป็นเจ้าโลก ฉันจะเป็นพระเจ้าให้พระเจ้าเห็น!

อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางความรุ่งเรืองสุดขีดของมนุษย์ยุคนี้ สตีเฟน ฮอว์กิ้ง-นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้อง กลับทำนายเอาไว้ว่า เป็นความรุ่งเรืองนี้เองที่จะกลืนกินมนุษย์ เราจึงมีโอกาสสูงมากที่จะสูญพันธุ์ภายในเวลาไม่เกินหนึ่งพันปีนับจากนี้

คราวนี้-ลองยกมือของคุณขึ้นมาดูอีกครั้ง และถามตัวเองว่า-คุณเห็นอะไร

นอกจาก ‘มือ’ และ ‘ความร่วมมือ’ ในอันที่ีจะเปลี่ยนตัวเองจากสายพันธุ์ของสัตว์ให้เป็นพระเจ้าแล้ว-คุณยังเห็นอะไรซ่อนอยู่ในนั้นอีกบ้างไหม

ถ้าคุณไม่เห็น เชื่อว่า-หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณได้เห็น…

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s