
ในวัยสามสิบ วันจะยาวนาน แต่ปีจะแสนสั้น
ในวัยสามสิบ วันจะยาวนาน แต่ปีจะแสนสั้น แต่ละวันกว่าจะผ่านไปได้นั้น แสนเหนื่อยไปกับการทำงาน การเจรจาต่อรองกับผู้คน แต่เมื่อโงหัวขึ้นมาอีกที ปีหนึ่งๆ กลับผ่านไปคล้ายการกะพริบตา
Read More…articles that instigate
ในวัยสามสิบ วันจะยาวนาน แต่ปีจะแสนสั้น แต่ละวันกว่าจะผ่านไปได้นั้น แสนเหนื่อยไปกับการทำงาน การเจรจาต่อรองกับผู้คน แต่เมื่อโงหัวขึ้นมาอีกที ปีหนึ่งๆ กลับผ่านไปคล้ายการกะพริบตา
Read More…ทำไมชีวิตถึงยากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดนี้,
รุ่นน้องคนหนึ่งที่อยู่ในวัยสามสิบกลางๆ เอ่ยขึ้นในวันหนึ่ง
เขาบอกผมด้วยว่า สมัยที่ผมอายุเท่าเขา เพราะอะไรก็ไม่รู้ ผมถึงดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเขามาก ในขณะที่เขาและเพื่อนรุ่นเดียวกันยังแลดูเป็นเด็กกะโปโลอยู่เลย
Read More…เวลาพูดถึงการลงทุน หลายคนไม่ค่อยคิดอะไรมาก มักจะเชื่อตามคำแนะนำในการลงทุนของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ซึ่งโดยมากก็ดีนั่นแหละครับ
แต่ปัญหาก็คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินส่วนใหญ่จะให้คำแนะนำแบบ ‘กว้างๆ’ เพราะคุณคงไม่ได้ร่ำรวยเป็นเจ้าสัวขนาดที่สามารถจ้างผู้เช่ียวชาญด้านการเงินมา ‘เทย์เลอร์เมด’ แผนการลงทุนหรือการออมเฉพาะตัวให้คุณได้
แล้วเราควรทำอย่างไรดี
Read More…คุณรู้สึกอย่างไรกับวัยสามสิบบ้างครับ
คงเป็นการเหมารวมมากเกินไป ถ้าจะบอกว่า วัยสามสิบเป็นวัยที่ดีที่สุดหรือแย่ที่สุด เพราะแต่ละคนคงมีประสบการณ์และการรับรู้ที่แตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางชิ้นก็บอกว่า วัย 35 ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดหรือเป็น Best Age ของมนุษย์กันเลยทีเดียวนะครับ โดยคนเราจะไม่ได้มีความสุขอย่างแท้จริงหรอก จนกว่าจะอายุถึง 33 ปี
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น?
Read More…มีการวิจัยใหญ่เมื่อหลายปีก่อน แล้วเขาสรุปกันออกมาว่า ความสุขหรือความพึงพอใจในชีวิตของมนุษย์เรานั้น มันจะมีลักษณะเป็นกราฟรูปตัว U
ตัว U ที่ว่า ก็คือตอนเด็กๆ เราจะมีความพึงพอใจในชีวิตค่อนข้างมาก (ลองนึกถึงตอนที่เรายังเป็นเด็ก ต่อให้ชีวิตทุกข์ยากลำบากอย่างไร เรามักจะไม่รู้สึกถึงความลำบากเหล่านั้น) แต่ยิ่งโตขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรู้สึกว่าชีวิตเต็มไปด้วยอุปสรรค เต็มไปด้วยการเปรียบเทียบกับคนอื่น จนทำให้ความสุขหรือความพึงพอใจในชีวิตของเราลดลงเรื่อยๆ
แล้วเมื่อไหร่กัน ที่เราจะอยู่ใน ‘ขาขึ้น’ ของความสุข
Read More…ใครๆ ก็รู้ว่าคบคนดีจะทำให้เราดีไปด้วย คบคนไม่ดี ชีวิตก็อาจจะแย่
แต่เพิ่งมีการสรุปการศึกษาเมื่อสักสองปีที่แล้วมานี้เองครับ ว่าคำพูดที่ว่าข้างต้นนั้น ไม่ได้เป็นจริงแค่ในเรื่องความดีความเลวแบบคบคนพาลพาลพาไปหาผิดเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวพันกับ ‘สุขภาวะ’ (Well-Being) ของชีวิตในระยะยาวอีกด้วย
การศึกษาที่ว่าไม่ใช่ทำกันเล็กๆ น้อยๆ นะครับ แต่เป็นการศึกษาที่ยาวนานถึง 30 ปีกันเลยทีเดียว กับการศึกษาของมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ ที่บอกว่า ‘ปริมาณ’ ของเพื่อนที่เราคบหาในวัย 20s กับ ‘คุณภาพ’ ของความสัมพันธ์ทางสังคมที่เรามีในวัย 30s จะส่งผลต่อชีวิตที่เหลือของเราอย่างใหญ่หลวงยิ่งนัก
Read More…พบว่าคนวัยสามสิบปลายๆ ใกล้สี่สิบ มักจะมีสภาวะ ‘ไม่สุข-ไม่ทุกข์’ แล้วก็อาจจะคิดว่าใกล้บรรลุแล้ว เพราะไปพ้นจากทุกข์และสุข แต่เอาเข้าจริง สภาวะแบบนั้นของหลายคน กลับคือการ ‘ไม่สุข-ไม่ทุกข์’ แบบซังกะตาย หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต
การประคับประคองตัวตนให้ผ่านวัยสี่สิบต้นๆ ไปได้เป็นเรื่องหนัก เหมือนต้องเกิดใหม่อีกครั้งอย่างที่ฝรั่งบอกกันว่า ชีวิตเริ่มต้นที่สี่สิบจริงๆ นั่นแหละ
ถ้าตอนนี้คุณอายุราวๆ 30 ปีเศษๆ และรักการอยู่เป็นโสด คุณอาจต้องรีบนึกถามตัวเองเสียแต่เนิ่นๆ นะครับ ว่าจะอยู่อย่างไรตอนแก่
ลกมี ‘ชาวโสด’ เพิ่มขึ้นมาก ประมาณว่าเฉพาะอเมริกา คนวัย 45-63 ปี ที่เป็นโสด (คือทั้งไม่เคยแต่งงานและหย่าร้างแล้ว) มีมากถึงหนึ่งในสาม เพิ่มขึ้นจากราวสามสิบปีก่อนถึง 50%
คำถามก็คือ ถ้าทั้งไร้ลูกและไร้คู่ – เราจะอยู่อย่างไร
ช่วงวัย 30 กว่าๆ หลายคนเกิด Coming of Age แบบหนึ่ง เป็น Coming of Age ของการอยากผลัดใบ อยากทิ้งชีวิตเก่า อยากตระเวนท่องโลกเหมือนเจ้าชายวัยสิบแปดในนิทานออกผจญภัยอีกครั้ง
แต่เลข 3 ทำให้หลายคนเริ่มครุ่นคิดจริงจังว่าจะไปทางไหน กันแน่ เพราะอาจไม่มีเวลาในชีวิตให้เสียไปอีกแล้ว
Read More…