มีคนเคยถามว่า ผมเคยเสียใจเรื่องอะไรมากที่สุดในชีวิต และและมีวิธีจัดการความรู้สึกเสียใจนั้นอย่างไร
ที่จริงแล้ว เรื่องเสียใจในชีวิตผมมีไม่มากนัก เพราะก่อนทำอะไร มักจะคิดแล้วคิดอีก ไม่ใช่คิดเพื่อให้เรื่องที่ทำมันพลาดไม่ได้นะครับ แต่คิดแล้วคิดอีกว่า – ถ้าหากทำสิ่งนั้นๆ ลงไปแล้ว มีหนทางที่เราจะ ‘สำนึกเสียใจ’ ในภายหลังบ้างหรือเปล่า
และในบางเรื่อง แม้คำตอบจะคือ – เป็นไปได้ แต่สุดท้ายเพื่ออะไรบางอย่างก็ยังจำเป็นต้องทำ ซึ่งหากคิดแล้วว่าต้องทำ (เช่น การเปลี่ยนงาน ฯลฯ) – ต่อให้คนอื่นพยายามทำให้เราสำนึกเสียใจมากแค่ไหน ก็จะไม่มีวันสำนึกเสียใจ
แต่เรื่องเสียใจก็ยังอาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเรื่องที่เราไม่มีโอกาส ‘คิด’ กับมันล่วงหน้า และเป็นเรื่องที่เราควบคุมอะไรไม่ได้
เรื่องเสียใจแรก เป็นตอนที่เริ่มโต แล้วพ่อให้นาฬิกามาเรือนหนึ่ง เป็นนาฬิกาข้อมืออย่างดีที่กันน้ำได้ ตอนนั้นจึงใส่นาฬิกาเรือนนั้นไปเล่นน้ำทะเลกับเพื่อน แต่ด้วยความที่นาฬิกาเรือนใหญ่เกิดข้อมือเด็กที่เพิ่งเริ่มโต สายก็หลวม คลื่นก็แรง เล่นน้ำไปสักพัก นาฬิกาจึงหลุดหายไปจากข้อมือ
ตอนที่นาฬิกาพลัดออกมานั้น ใจหายวูบ เพราะรู้เลยว่านี่คือขณะเวลาที่เราไม่สามารถยื้อคืนกลับมาได้อีกแล้ว มันหลุดออกไปแล้ว ล่องลอยหายสูญไป และเป็นไปได้ที่จะจากเราไปตลอดกาล หายไปในสายน้ำคลื่นถะถั่งรุนแรงใต้ฟ้าที่กำลังมืดครึ้มเพราะฝนกำลังจะตก
เพื่อนๆ ช่วยกันหา แต่ทะเลก็คือทะเล เมื่อมันกลืนกินสรรพสิ่งไปแล้วย่อมไม่คลายคืนกลับ ไม่มีใครเจอนาฬิกาสีเงินเรือนนั้น – เรือนที่พ่อให้, ผมกลับขึ้นรถ เศร้าลึก ไม่ได้กลัวพ่อว่า แต่รู้สึกเป็นครั้งแรก – ว่าชีวิตของมนุษย์คือการสูญเสียพลัดพรากจากสิ่งที่เรารัก นี่คือครั้งแรก และจะมีครั้งต่อๆ ไปที่หนักหนาสาหัสกว่านี้รอคอยเราอยู่อีกไม่รู้จบ
ดังนั้น ผมจึงยิ้มให้เพื่อน ขอบคุณและดีใจที่เพื่อนทุกคนช่วยกันหา และยิ้มให้กับความเสียใจครั้งนั้นจนเพื่อนต้องเอ่ยถามว่าไม่รู้สึกอะไรเลยหรือที่ทำนาฬิกาหาย
รู้สึกสิ – ผมตอบ, แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้
เรื่องเสียใจที่สองที่นึกถึง ก็คือการจากไปของเจ้าของนาฬิกาเรือนนั้น คนที่ให้นาฬิกาเรือนนั้นกับผม
ใช่ – พ่อของผมเอง
ตอนตาย พ่อจากไปอย่างกะทันหัน มีเพียงโทรศัพท์มาบอกเล่าให้ออกเดินทางไปงานศพพ่อ
ระหว่างขับรถยาวไกลไปนั้นเอง ผมร้องไห้ และรับรู้ถึงคลื่นความเสียใจมหึมาที่แล่นผ่านหัวใจ มันคือคลื่นเดียวกับคลื่นที่พัดนาฬิกาเรือนนั้นหายไป ผิดเพียงแต่ว่า คลื่นในทะเลซัดสาดไม่รู้จบ ทว่าคลื่นแห่งความเสียใจไม่ว่าจะใหญ่เพียงใด มันจะซัดมาเพื่อจะหายไป และหายไปเพื่อจะกลับมาใหม่ แต่ทุกครั้งที่กลับมา มันจะค่อยๆ เล็กลงเรื่อยๆ
ที่เหมือนกันอย่างที่สุด ก็คือคลื่นทั้งสองเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้เลย ไม่ว่าจะให้หายเสียใจ – หรือจะให้เสียใจมากเท่าเดิม
ทุกวันนี้ เรื่องเสียใจใหญ่หลวงเหล่านั้นยังเป็นเหมือนริ้วคลื่นเล็กๆ ที่กระเพื่อมกลับมาเสมอเมื่อนึกหรือฝันถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว และเตือนให้เรารู้ว่า – เราไม่อาจทำอะไรกับความเสียใจได้เลยจริงๆ เมื่อเกิดขึ้นมันก็จะเกิด และเมื่อหายไปมันก็จะหาย