Q : สวัสดีครับ ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นวิกฤตของผมอย่างแท้จริงแม้ผมจะเพิ่ง 20 ครับ คือ ผมไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้ว ผมควรอุทิศตนให้กับอะไร ผมไม่รู้ว่าจริงๆแล้วผมอยากทำอะไรมากที่สุด ผมเพิ่งออกจากมหาลัยชื่อดังในกทม. มาครับ ส่วนหนึ่งที่ออกเลยคือผมรู้สึกว่าความหมายมันไม่มากพอครับ หมายความว่า ตอนก่อนเข้าคณะนี้ ผมแค่คิดว่าผมอยากมีเงินเยอะๆจะได้ช่วยเหลือที่บ้าน แต่มันกลับกลายเป็นว่าพอเข้าไปศึกษาจริงๆ ผมไม่ได้ชอบจริงๆครับ ตอนนี้ผมค่อนข้างเคว้งและกำลังหาสิ่งที่ชอบอยู่ครับ ปรากฎว่ามีหลายสิ่งเลย ผมคิดว่าผมเป็นเป็ดนะครับ ส่วนหนึ่ที่คิดงั้นเพราะผมต้องทนเรียนในสายที่ไม่ได้ชอบมา…
A : อ่านคำถามแล้ว อยากบอกว่า – ผมก็เป็นเป็ดเหมือนกันครับ
สมัยก่อนโน้น ผมเป็นเด็กเรียนเก่ง และตามประสาเด็กเรียนเก่งสมัยก่อนโน้น ผมย่อมต้องเรียนสายวิทยาศาสตร์ ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่า ความสนใจแท้จริงของผมอยู่ที่การอ่านการเขียน
อยากบอกว่า ตอนผมเรียนปีหนึ่งที่คณะวิทยาศาสตร์ ผมก็ตัดสินใจสอบเอนทรานซ์ใหม่เหมือนกันครับ ตอนนั้นคิดว่าจะไม่เรียนแล้ววิทยาศาสตร์ อยากเรียนปรัชญาหรือภาษาศาสตร์มากกว่า ก็เลยไปสอบเข้าสาขาวิชาปรัชญาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งก็สอบติด แต่พอสอบติดจริงๆ ก็พบว่าตัวเองน่าจะเป็นเป็ดที่ไม่กล้าหาญเท่าไหร่ เพราะหลังจากตัดสินใจใหม่หลายหน ก็เลือกที่จะเรียนต่อที่เดิมทั้งที่ไม่ได้ชอบมากนัก แต่ก็อดทนเรียนไปจนจบ
เอาเข้าจริง ผมยังคิดว่าตัวเองเป็นเป็ดมาจนตลอดชีวิตด้วยนะครับ เพราะผมอยู่ในสถานะที่ ‘ก้ำกึ่ง’ เกือบตลอดเวลา เช่น ต่อให้เข้ามาทำงานในวงการการเขียนแล้ว ผมก็บอกตัวเองได้ไม่เต็มปากว่าทำงานอะไรกันแน่ ระหว่างเป็นนักเขียน บรรณาธิการ หรือนักแปล เพราะผมเลือกทำทุกอย่าง แต่ไม่ได้เก่งสักอย่าง
อย่างน้อยที่สุด ผมก็คิดว่าคุณเป็นเป็ดที่กล้าหาญ คือถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรมากที่สุด แต่ก็รู้มากพอที่จะทิ้งสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ถึงขนาดที่ออกจากการเรียนในมหาวิทยาลัยมา แต่ก็ต้องบอกว่านี่เป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงพอสมควรนะครับ เพราะว่าเรายังไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ชอบ แต่ได้ปล่อยมือจากหลักเดิมที่เคยยึดเกาะเอาไว้ก่อนแล้ว ถ้าได้ถามกันมาก่อน ผมอาจจะแนะนำอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือลองอดทนอีกสักนิดเพื่อมองหาสิ่งที่เราชอบและรู้แน่ชัดว่านั่นคือสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ เสียก่อน เวลากระโดดออกมาจะได้มีเป้าหมาย ไม่รู้สึกเคว้งคว้างมากเกินไป
แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็ไม่เป็นไรครับ อาจใช้เวลาช่วงนี้ทดลองมองหาว่าอยากทำอะไร อยากอุทิศตัวให้กับอะไรกันแน่ ซึ่งถ้าหาพบ และได้อุทิศตัวเพื่อสิ่งนั้นจริงๆ คุณก็จะได้เป็นเป็ดที่มีความสุขครับ

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกด้วยว่าการเป็นเป็ดไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะเป็ดอาจจะไม่รู้ไปจนตลอดชีวิตก็ได้ครับ ว่ามันชอบว่ายน้ำ บิน หรือเดินอยู่บนพื้นดินมากกว่ากัน เป็ดทำทุกอย่าง – อย่างละนิดละหน่อย โดยที่มันก็รักทุกสิ่งที่มันทำนั่นแหละ แต่มันรู้ตัวดีว่า มันจะไม่มีวัน ‘เป็นเลิศ’ ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือทุกสิ่งที่มันทำได้ เพราะมันไม่ได้ฝึกฝนในแง่ลึกเพื่ออะไรอย่างเดียว มันไม่ได้บินเก่งที่สุด ดำน้ำเก่งที่สุด ว่ายน้ำเก่งที่สุด ฯลฯ มันทำได้ทุกอย่าง แต่เพราะเวลาในชีวิตมีน้อยเกินไป มันจึงฝึกทุกอย่างให้เก่งกาจไม่ได้
ในแง่หนึ่ง การเป็นเป็ดจึงคือการกล้ำกลืนอยู่กับภาวะตรงเส้นพรมแดน ตรงดินแดน ‘ระหว่าง’ ดินแดนทั้งปวง ทำในสิ่งที่รักมากพอสมควรหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน โดยไม่มีโอกาสทุ่มเทให้กับสิ่งที่รักที่สุดเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเป็ดตัดใจทำสิ่งเดียวไม่ได้ การเป็นเป็ดจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ต้องฝึกฝนตัวเองไปพร้อมๆ กันในทุกๆ ด้าน
แต่อย่าลืมว่า การเป็นเป็ดก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะล้มเหลวนะครับ เราอาจจะไม่ได้วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในการแข่งกีฬาประเภทใดประเภทหนึ่ง แต่เป้าหมายของเป็ดอาจอยู่ที่ที่สิบของกีฬาทุกประเภทที่ลงแข่งก็ได้ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย
ขอเอาใจช่วยให้หาสิ่งที่อยากทำจริงๆ ได้โดยเร็วนะครับ
ลองดูนะครับ
