เพิ่งได้เล่นเกม The Stillness of the Wind พบว่าเป็นเกมที่เศร้ามาก
เรื่องราวของเกม คือเรื่องของหญิงชราคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในบ้าน ผู้คนในหมู่บ้านของเธอ ญาติพี่น้อง ต่างย้ายไปทำงานที่อื่น หรือไม่ก็เข้าไปอยู่ในเมืองกันหมด แต่เธอยังปักหลักอยู่ที่นั่น
บ้านของเธอเป็นบ้านหลังเล็กๆ มีโรงทำชีสเล็กๆ เล้าไก่ และคอกแพะ เธอมีแพะสองตัว ไก่อีกหลายตัว จึงสามารถเก็บไข่และรีดนมแพะมาทำชีสได้
ทุกหนแห่งในบ้านของเธอเต็มไปด้วยความทรงจำ คอกแพะและโรงชีสนี้ใครเคยสร้างไว้เมื่อไหร่ ก้อนหินหลังบ้านที่เธอและญาติพี่น้องเคยไปนั่งเล่น รวมไปถึงหลุมศพหน้าบ้านของผู้เป็นที่รักของเธอ ไม่ว่าจะแตะต้องไปตรงไหน ทุกสิ่งล้วนกลายร่างเป็นความทรงจำเสมอ
มีคนคนหนึ่งมาเยี่ยมเธอแทบทุกวัน เขาเป็นพ่อค้าที่เอาของมาแลกกับเธอ และบอกเล่าข่าวคราวของเมือง ของญาติพี่น้องเธอ ให้เธอได้รับรู้ นานๆ ครั้งก็มีจดหมายจากญาติพี่น้องมาบ้าง บอกเล่าให้เธอรู้ว่าใครเป็นอย่างไร ชีวิตเมืองนั้นมีสีสันเพียงใด ทุกคน ‘สนุก’ กับชีวิตอย่างไรบ้าง
แต่เธออยู่ที่นี่ เดียวดาย และใช้ชีวิตแต่ละวันไปกับไก่ แพะ และความพยายามจะปลูกพืชผักเล็กๆ น้อยๆ เพื่อประทังชีวิต
ชีวิตของเธอทำให้นึกถึง ‘ไซบีเรียนซินโดรม’ ที่มุราคามิเคยเขียนถึงเอาไว้ มันคือการตื่นขึ้นมา ไถพรวนทำนา กลับเข้านอน แล้วก็ตื่นขึ้นมาทำสิ่งเหล่านี้ เพียงเพื่อให้พอมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีอะไรดีขึ้น พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก แล้วก็ตกทางทิศตะวันตก วันแล้ววันเล่า เคลื่อนคล้อยไปเรื่อยๆ ไม่มีความหมาย ไม่รู้ความหมาย ไม่มีเหตุผล และไม่รู้เลยว่า เหตุผลของการ ‘มาอยู่ที่นี่’ มันคืออะไร
บางค่ำคืน หมาป่าก็มาล่าแพะบ้าง หญิงชราต้องจับปืนยิงหมาเพื่อปกป้องแพะของเธอ แต่นั่นไม่ใช่เกม ไม่ใช่ความตื่นเต้นอันเป็นส่วนเสริมของชีวิต แต่คือ ‘ความจริง’ ของการพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด บางครั้งหมาป่าก็มากันมากมาย จนเธอปกป้องแพะเอาไว้ไม่ได้ บางครั้งพ่อค้าที่มาเยี่ยมเธอก็หายหน้าไป ทั้งที่ฟางอันเป็นอาหารของแพะหมด
แล้วคืนหนึ่ง เมื่อพายุใหญ่กระหน่ำพร้อมกับที่หมาป่าบุกเข้ามา ไก่ก็หายไปจนสิ้น แพะตัวสุดท้ายที่ไม่มีฟางให้กินล้มตายลง ฝนตกอยู่สามวันสามคืน และเมื่อพ่อค้ามา เขามีสินค้ามาให้เธอน้อยเหลือเกิน เขามีแต่ฟาง ฟางที่ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว เพราะเธอไม่มีแพะหลงเหลืออยู่อีกแม้แต่ตัวเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อตื่นขึ้นมา หญิงชราเดินช้ากว่าที่เคย เธอเดินไปยังหลุมฝังศพหน้าบ้าน เมื่อถึงที่นั่น เธอก็ล้มลง และไม่ลุกขึ้นมาอีก
The Stillness of the Wind เป็นเกมที่มีความเร็วต่ำ มันเดินเรื่องไปอืดเอื่อย ล่าช้า จำเจ ซ้ำซาก ประหนึ่งพยายามบอกเราว่า ชีวิตของเราก็เป็นแบบนี้ มีแบบแผนที่เราสร้างขึ้นมาเองจากตัวเลือกอันจำกัดในชีวิต เราอาจมีความสุข ร้องเพลงขณะรีดนมแพะหรือทำชีส แต่ความสุขนั้นก็แสนสั้น มันจะผ่านไปเมื่อพายุมา และสุดท้ายเราก็จะเป็นหนึ่งเดียวกับสายลมและเม็ดฝุ่นของทะเลทรายที่รายล้อมเราอยู่ สูญสลายกลายกลืนไปเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง ไม่เหลือตัวตนของเราอยู่อีกต่อไป
บางทีอาจเป็นแบบนั้นก็ได้ – ที่จะทำให้เราไปถึงซึ่งความสุข
ไม่ใช่การพยายามดิ้นรนวันแล้ววันเล่าหรอก