เด็กผู้หญิงที่เคยใส่ชุดนักเรียนนั่งทำการบ้านอยู่บนโต๊ะในร้านก๋วยเตี๋ยวของแม่กับป้า บัดนี้กลายมาเป็นแม่คนที่กำลังยืนลวกก๋วยเตี๋ยวอยู่ ไม่มีการบ้าน ไม่มีหนังสือเรียน ไม่มีการขีดเขียนอีกต่อไป มีแต่การสืบทอดการทำก๋วยเตี๋ยว ในขณะเวลาที่แม่และป้าแก่ชราลงมาก
ในซอยแถวบ้าน ชีวิตวนเวียนไปอย่างนั้น เกาะเกี่ยวกันไปอย่างนั้น นี่พูดถึงว่า – ถ้ายังมีใครให้เกาะเกี่ยว
ถัดไปอีกนิด เป็นอีกร้านก๋วยเตี๋ยวที่เคยมีพี่น้องสองศรีช่วยกันลวกก๋วยเตี๋ยวขายพร้อมกับบ่นก่นด่ากันไปจนก๋วยเตี๋ยวอร่อย เวลาผ่านไป ทั้งคู่แก่ลงมาก ต่างคนต่างต้องพันขาด้วยผ้าพันแผลแน่นๆเพื่อไม่ให้ปวดขาเข่าขณะเดินกระย่องกระแย่งไปเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยว
วันนี้ร้านปิด คนหนึ่งหายไป อีกคนหนึ่งเพิ่งลงจากแท็กซี่ และกระทั่งเดินขึ้นมาบนฟุตบาทก็ยังทำเองไม่ได้ ต้องให้คนอื่นช่วย
ถัดไปอีกนิด เป็นอาม่าบนคอนโดฯ ที่ดูเหมือนใช้ชีวิตลำพัง แต่ละวันเธอเตร็ดเตร่ตระเวนไปคุยกับคนนั้นทีคนนี้ที เมื่อคู่สนทนาต้องไปทำอย่างอื่น เธอจะถามว่า-จะไปแล้วเหรอ, เสมอ
เธอไม่เคยยอมรับว่าเหงา
ตรงโน้น ลุงที่เคยขี่มอเตอร์ไซค์เอาหนังสือพิมพ์ไปส่งอย่างแข็งขัน เคยทะเลาะกับยามที่ทำหนังสือพิมพ์หาย หลังประสบอุบัติเหตุแล้วก็ได้แต่นอนนิ่งอมโรคดูทีวีไปวันๆอย่างซังกะตาย แผงหนังสือพิมพ์ไม่เหลือหนังสือและนิตยสารต่างๆอีกแล้ว มีแต่ภรรยาปากร้ายที่ขายผลไม้ประทังชีวิตไปเรื่อยๆ
ในซอยแถวบ้าน ชีวิตวนเวียนไปอย่างนั้น เกาะเกี่ยวกันไปอย่างนั้น คล้ายว่าการเกาะเกี่ยวกันและกันจะทำให้ทุกคนรอดพ้น คล้ายว่าใครสามารถเป็นหลักให้ใครได้ คล้ายว่าการเกาะเกี่ยวนั้นมีความหมาย
เพราะอยากกินก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ใส่หมูสับอย่างเดียวเยอะๆ จึงได้แวะไปในการวนเวียนนี้ มองดู และนึกถึงคำถามแรกที่ผุดขึ้นตอนตื่นนอนเมื่อเช้านี้ว่า, เมื่อไหร่เราจะตาย