26 ธันวาคม เป็นวันที่น่าสนใจมาก
1. หลายคนอาจพอรู้ว่า วันนี้เป็นวัน Boxing Day หรือวัน ‘เปิดกล่องของขวัญ’ คือให้ของขวัญกันในวันคริสต์มาส (หรือไม่ก็คืนคริสต์มาสอีฟ โดย ‘ซานตาคลอส’ เอามาใส่ไว้ในถุงเท้า) แต่มาเปิดกันในเช้าวันนี้ ในโลกตะวันตกเป็นวันหยุดธนาคารด้วย เพราะจริงๆแล้ววันนี้จะคล้ายกับวันตรุษจีน คือมีการให้ ‘แต๊ะเอีย’ กันกับคนทำงาน (เข้าใจว่ากลายมาเป็นโบนัสสิ้นปี)
2. วันนี้เป็นวันเซนต์สตีเฟนด้วย จริงๆก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อน แต่ตั้งแต่ไปไอร์แลนด์มาเมื่อหลายปีก่อนโน้น (จริงๆไปสองรอบ แต่รอบล่าสุดไปแป๊บเดียว) ไปเจอสวน (จริงๆคือจัตุรัส) ที่ใหญ่ที่สุดกลางเมืองดับลิน เรียกว่า ‘เซนต์สตีเฟนสกรีน’ (St Stephen’s Green) เลยได้รู้ว่านักบุญสตีเฟนเป็นนักบุญสำคัญ คือเป็นหนึ่งในคริสเตียนรุ่นแรกที่ได้รับการบวชแล้วออกไปเผยแผ่ศาสนา แต่ด้วยศรัทธาร้อนแรง แถมปากกล้า เลยไปสร้างความบาดหมางอะไรบางอย่างให้ชาวยิว จนถูกหาว่าหมิ่นโมเสส (จริงๆมีการค้นคว้าว่านักบุญสตีเฟนพูดอะไรเอาไว้เยอะนะครับ แต่คงต้องไปหาอ่านกันเอาเอง) สรุปว่า ที่สุดเลยโดนลากออกไปนอกโบสถ์ แล้วถูกขว้างหินจนตาย
3. แต่ที่ทำให้จำเซนต์สตีเฟนได้ และจำวันที่ 26 ธันวาคม อันเป็นวันฉลองเซนต์สตีเฟนได้ไม่รู้ลืม ก็เพราะพอถูกก้อนหินขว้างใส่หัวจนตายแล้ว นักบุญสตีเฟนก็ได้กลายเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์สำหรับช่างสกัดหินและคนปวดหัว (ช่างย้อนแย้งยิ่งนัก) ซึ่งอย่างหลังเป็นอาการป่วยประจำตัวของข้าพเจ้าเอง เลยทำให้จำได้
4. ที่เซนต์สตีเฟนสกรีนได้ชื่อแบบนี้ก็เพราะเมื่อก่อนบริเวณนี้เป็นบ้านสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ชื่อเซนต์สตีเฟน ไม่เกี่ยวอะไรกับการที่คนไอริชนับถือนักบุญสตีเฟนเป็นพิเศษ เพราะนักบุญที่คนไอริชถือว่าเป็นนักบุญประจำชาติ ก็คือเซนต์แพทริก (วันเซนต์แพทริกคือ 17 มีนาคม ที่คนจะแต่งตัวสีเขียวกันไปทั้งเมือง สมัยก่อนก็เคยสับสนเหมือนกัน ระหว่างสีเขียวของวันเซนต์แพทริก กับชื่อ St Stephen’s Green 555)
5. ตอนเจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งอังกฤษสิ้นพระชนม์ ควีนวิคตอเรียผู้ยิ่งใหญ่ยิ่งยงเคยอยากเปลี่ยนชื่อ St Stephen’s Green มาเป็น Albert Green แต่ถูกชาวดับลินต่อต้านจนทำไม่ได้
6. อีกอันที่เพิ่งรู้ตอนไปไอร์แลนด์ (ไม่ใช่ไอซ์แลนด์นะครับ) ก็คือวันนี้เป็น ‘วันนกเวร็น’ (Wren Day) ด้วย (ไม่แน่ใจว่าในไทยเรียกว่า ‘นกจู๋เต้น’ หรือเปล่า แต่ดูรูปแล้วคล้ายๆกัน) เป็นนกที่พบได้ทั่วไปในไอร์แลนด์
7. นกเวร็นนี่ อย่าคิดว่าเขาฉลองกันเพราะเห็นว่ามันน่ารักอะไรนะครับ แต่เพราะคนไอริชถือว่ามันเป็นนกโชคร้ายต่างหาก (ซวยจริงๆเล้ยเจ้านกเอ๋ย) มีตำนานเล่าว่า มันเคยบินมาเป็นฝูง แล้วเอาปีกไปตีใส่โล่ห์ของทหารตอนออกรบ ทำให้เสียงดัง ฝ่ายตรงข้ามเลยรู้ว่ากำลังซุ่มอยู่ ที่สุดก็รบแพ้ ถูกทำลายไปหมดทั้งกองทัพ (นี่โยนบาปให้นกหรือเปล่าก็ไม่รู้!)
8. สรุปก็คือ การฉลองวันนกเวร็น (26 ธ.ค.) ก็เลยเป็นไปด้วยวิธีคล้ายๆฮัลโลวีน คือเด็กๆจะแต่งตัวเป็นนกเวร็น แล้วเดินไปเคาะประตูบ้าน แล้วก็ร้องว่า
The wren, the wren, the king of all birds,
St. Stephen’s Day was caught in the furze.
Although he is little, his honor is great.
Jump up, me lads, and give us a treat.
จากนั้นเจ้าของบ้านก็ต้องให้ขนมกับเด็ก ถ้าเด็กพอใจ ก็จะให้ขนนกเวร็นเอาไว้หนึ่งเส้นแล้วก็จากไปโดยดี แต่ถ้าไม่พอใจ ก็จะซากนกเวร็น (ไปเอามาจากไหนฟระ) วางไว้ที่หน้าประตูบ้าน เป็นการสาปให้บ้านนั้นโชคร้ายตลอดปี
9. จริงๆแล้วทุกวันเป็นวันสำคัญอะไรสักอย่างเสมอ