พิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสา : เรื่องผิดพลาดของความรัก

ผมรู้, เราต่างเคยทำเรื่องผิดพลาดกันมาทั้งนั้น

แต่ความผิดพลาดที่ประทับอยู่ในใจนานที่สุด อาจเป็นความผิดพลาดเกี่ยวกับความรัก เหมือนที่เคมาล หนุ่มตุรกีนักเรียนนอกเนื้อหอม ผู้กำลังจะแต่งงานกับคนรักของเขา คนรักที่ถึงพร้อม ดีงาม ร่ำรวย ฉลาดล้ำ และสวย เหมาะสมกับเขาทุกอย่าง

แต่แล้ว เรื่องราวเล็กๆ ที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เมื่อเขาไปได้พบกับใครอีกคนหนึ่ง เด็กสาวยากจนผู้เทียบอะไรกับคู่หมั้นของเขาไม่ได้เลย

ความสัมพันธ์ลับๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ชีวิตของเคมาลทุรนทุราย เขาต้องปกปิดความลับนั้น แม้เขาจะรักคนอีกคนหนึ่งอย่างเหลือเกิน ทว่าเขาก็ทำอะไรไม่ได้ มันเป็นความสัมพันธ์ที่ซุกซ่อน ในท่ามกลางความขัดแย้งยิ่งใหญ่ของสังคมตุรกี เรื่องราวการปะทะกันของโลกตะวันออกและโลกตะวันตก เป็นฉากหลังมโหฬารยิ่งใหญ่ให้กับเรื่องราวเล็กๆ ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง สถานที่นัดพบระหว่างเขาและเธอ คนที่เขารัก สถานที่ที่เป็นคล้ายอนุสรณสถาน

ผมรู้, คุณอาจเคยมีเรื่องราวเช่นนี้ในชีวิต เรื่องราวของความรักที่บอกเล่าให้ใครฟังไม่ได้ เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ที่จะทำร้ายคนอื่น แต่ในเวลาเดียวกัน การปกปิดนั้นก็ทำร้ายตัวเองด้วย เช่นเดียวกับที่มันทำร้ายเคมาลจนยับเยินแทบสูญสิ้น

ว่าแต่ว่า หากมีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ คุณอยากจดจำร่องรอยของทุกเรื่องราวเอาไว้ไหม

คุณรู้ – ว่าคุณกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่แสนเปราะบาง มันอาจสูญสลายไปได้ทุกเมื่อ มันอาจหายลับไปในกาลเวลา ไม่มีใครอีกแล้วที่จดจำมันได้ แต่กระนั้น คุณก็อยากเหนี่ยวรั้งมันไว้ อยากกอบเก็บมันเอาไว้ กระทั่งก้นบุหรี่ที่คุณสูบในยามที่อยู่กับเธอ คุณก็ยังอยากเก็บมันเอาไว้ ทำเครื่องหมาย ให้หมายเลขแก่มัน และบันทึกว่า ก้นบุหรี่ชิ้นนั้น คุณสูบในวันไหน และในวันนั้นได้เกิดอะไรขึ้นบ้าง

เป็นความสัมพันธ์อย่างนี้นี่เองที่ยวนใจ หอมหวาน เจ็บร้าว และเหนี่ยวรั้งกาลเวลาไม่ให้เดินหน้าต่อไป 

แต่แล้วคุณก็รู้ คุณไม่อาจหยุดการหมุนของกงล้อเวลาได้ มันจะเคลื่อนไปช้าๆ บดขยี้ทุกสิ่งที่ผ่าน ปล่อยให้คุณนั่งอยู่เงียบๆ ในห้องสงบนิ่งไร้ชีวิตนั่น พร้อมทุกข้าวของที่คุณเก็บรักษาไว้

มันเพียงแต่ไม่มีชีวิต…ก็เท่านั้น

ผมรู้, เราต่างเคยพยายามกอบกำเก็บอดีต เราอยากย้อนเวลากลับไปในโมงยามแสนหวานนั่น แต่เราก็ย้อนเวลาไม่ได้ เราไม่เคยย้อนเวลาได้เลย ไม่ว่าความทรงจำนั้นจะสวยงามเพียงใดก็ตาม

ที่สุดแล้ว ชีวิตจะพรากเราจากชีวิตเสมอนั่นแหละ

 

 


cover-the-museum-of-innocence

 

หนังสือยิ่งใหญ่เล่มนี้ ‘พิพิธภัณฑ์แห่งความไร้เดียงสา’ (The Museum of Innocence) เป็นนิยายที่บอกเล่าถึงความรักต่างชนชั้น ความรักที่เจ็บปวดและบาดลึก เป็นผลงานของนักเขียนรางวัลโนเบลชาวตุรกีอย่าง ออร์ฮัน ปามุก เขาใช้เวลาในการเขียนนิยายเล่มนี้นานถึง 6 ปี โดยได้ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ต่างๆ อย่างละเอียดละออ เพื่อนำมาใช้เป็นฉากหลังในเรื่องราวความรักอันแสนเจ็บปวดนี้