กินบุฟเฟต์แล้วเครียด

อยากให้ผมลองตอบคำถามอะไร ทิ้งคำถามต่างๆ ไว้ได้ ที่นี่ เลยนะครับ

ผมจะค่อยๆ ทยอยตอบครับ

 

 

Q : เวลาไปกินบุฟเฟ่ต์ รู้สึกว่าทุกคนต่างพยายามกินให้มากๆๆๆเข้าไว้ ตัวเองก็เป็นอย่างนั้นค่ะ แต่กินแล้วก็เครียดจังเลย ประเทศอื่นเค้ากินบุฟเฟ่ต์แบบบ้านเราไหมคะ และใครเป็นคนคิดค้นการกินแบบบุฟเฟ่ต์คะ

A : การกินอาหารแบบบุฟเฟต์นี่มีที่มายาวนานแล้วนะครับ ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 โน่นแน่ะ โดยแรกเริ่มเดิมที โต๊ะบุฟเฟต์ไม่ใช่อาหารนะครับ แต่เป็นโต๊ะเครื่องดื่มที่เสิร์ฟกันก่อนมื้ออาหารอย่างเป็นทางการ เขาเรียกว่า Brännvinsbord หรือ Smörgåsbord คือเป็นโต๊ะจัดเครื่องดื่มไว้ให้ดริงค์กันก่อนโดยการเสิร์ฟด้วยตัวเอง

แต่ตอนหลัง (โดยเฉพาะในศตวรรษที่ 18) ก็เริ่มมีอาหารมาจัดวางด้วย ทำให้เกิดเป็นการกินอาหารแบบบุฟเฟต์ขึ้นมา

ธรรมเนียมการกินอาหารแบบบุฟเฟต์ที่เราคนไทยรู้จักกันดีที่สุด น่าจะมาจากอเมริกา ในสไตล์ที่เรียกว่า all-you-can-eat buffet คือยังไงก็ได้ จะตักอาหารอะไรก็ได้ มากน้อยเท่าไหร่ก็ได้ แต่มีเวลาจำกัด

การกินบุฟเฟต์แบบนี้ทำให้ต่างคนต่างพยายามกินให้มากเข้าไว้ จะได้คุ้มค่า ซึ่งก็แสดงให้เห็นถึงสภาพสังคมในยุคหลังสงครามที่คนสามารถ ‘กินได้ไม่อั้น’ เป็นการตอบสนองต่อความอดอยากในยุคก่อนหน้าสมัยเกิดสงครามใหญ่ในโลก

img_5491

 

แต่บุฟเฟต์ไม่ได้มีแบบเดียว เป้าหมายของบุฟเฟต์ในบางที่ก็คือการให้คนได้ ‘ลองชิม’ อาหารที่หลากหลาย อย่างละนิดละหน่อยตามใจชอบ ซึ่งก็จะคล้ายเป็นขั้วตรงข้ามกับการ ‘กินไม่อั้น’ เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีแบบที่มีคนมาเสิร์ฟให้ เช่นบุฟเต์ติ่มซำ หรือบุฟเฟต์แบบ ‘มองโกเลียนบาร์บีคิว’ ที่เป็นต้นเค้าบุฟเฟต์ปิ้งย่างหรือบุฟเฟต์หมูกระทะที่เราคุ้นเคย

การกินบุฟเฟต์แบบกินให้ได้มากที่สุด นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังอาจเกิดอาการกินทิ้งกินขว้าง ซึ่งนอกจากจะเป็นมารยาทที่ไม่ดีแล้ว ยังสร้างภาระให้กับสิ่งแวดล้อมโลก ด้วยการทิ้ง ‘รอยเท้าคาร์บอน’ เอาไว้มากเกินความจำเป็นอีกด้วย

จะกินบุฟเฟต์ จึงต้องใส่ใจเรื่องต่างๆเหล่านี้ด้วย

ไม่ใช่เอาแต่กิน