ความเดียวดายบดขยี้ทำลายเราได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ

เนื้อหาของบทความนี้มาจาก Podcast Hidden Brain ตอน Lonely Hearts ที่มีผู้จัดคือ Shankar Vedantam


 

Podcast ตอนนี้ทำให้อึ้งมาก ชื่อตอนว่า Lonely Hearts นั้น ทำให้คิดถึงความเดียวดายของคนอยู่แล้ว แต่เรื่องที่ได้ฟังกลับยิ่งทำให้รู้ว่า จินตนาการของความเดียวดายที่มีอยู่ สู้เรื่องจริงอันเจ็บปวดไม่ได้เลย

เรื่องเริ่มด้วยเจสซี ชายคนหนึ่งที่มีน้ำเสียงนุ่มนวล เขาได้รับจดหมายจากหญิงสาวคนหนึ่งชื่อพาเมลาในปี 1985

เจสซีเป็นผู้ชายที่อ้วน ไม่เคยมีคนรักจริงจัง เขามีเพื่อนน้อยมาก แม่ของเขาเพิ่งตาย พ่อของเขาป่วย เขาต้องคอยดูแลพ่ออยู่ตลอดเวลา เขาทำงานกับร้านอาหารของที่บ้าน จึงไม่มีเวลาเหลือมากนัก เขาตอบจดหมายเธอด้วยความสงสัยว่าเธอคือใคร

จดหมายตอบกลับจากพาเมลาที่ส่งมาหาเขาสม่ำเสมอกลายเป็นอะไรบางอย่างที่สำคัญมากในชีวิตของเขา เพราะพาเมลาเขียนจดหมายได้เข้าอกเข้าใจเขา ให้กำลังใจ และทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตนั้นมีความหมายมากขึ้นกว่าที่มันเป็น

ในที่สุด เขาก็รู้สึกว่า พาเมลาคือ ‘เพื่อนแท้’ 

ที่จริงแล้ว คนเขียนจดหมายของพาเมลาไม่ใช่พาเมลา แต่คือผู้ชายคนหนึ่ง เขาชื่อดอน ลอว์รี

เขาเป็นผู้ชายที่แก่กว่าเจสซีไม่น้อยทีเดียว ดอนอยากเป็นนักเขียนมาตลอด เขาเคยเขียนหนังสือนำเที่ยวเม็กซิโกโดยใช้ชื่อจริง แต่พบว่าขายไม่ค่อยดี เขาจึงลองเปลี่ยนนามปากกาเป็นผู้หญิงดู ปรากฎว่ามันขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ดอนจึงคิดแผนการณ์หนึ่งขึ้นมา

เขาไปขอเช่ารายชื่อคนอ่านจากแมกกาซีน (แสดงว่าธุรกิจให้เช่ารายชื่อหรือเมลลิ่งลิสต์นี่มีมานานแล้ว) แล้วก็มานั่งเขียนจดหมายหว่านๆ ไปถึงผู้ชายหลายๆคน โดยเขาเขียนเป็นผู้หญิงที่มีชื่อต่างๆ กัน

เขาให้ผู้หญิงพวกนี้เป็นนางฟ้า แล้วเขียนจดหมายรักไปถึงผู้ชาย โดยซื้อภาพสต็อคของนางแบบมา แล้วเอามาใช้เป็นภาพผู้หญิง และสร้างชีวประวัติให้ ‘นางฟ้า’ เหล่านี้ โดยแต่ละคนจะมีบุคลิกเฉพาะตัวแตกต่างกันไป โดยของเจสซีก็คือนางฟ้าชื่อพาเมลา

ถ้ามีคนตอบกลับ ก็เท่ากับเป็นเหยื่อ ดอนจะเขียนตอบไปสักพัก เขาไม่อยากได้ผู้ชายที่อยากได้เซ็กซ์ แต่ต้องเป็นผู้ชายที่เปราะบางในชีวิต ไม่มีเพื่อน มีความทุกข์บางอย่าง ดังนั้นเจสซีจึงเป็นเหยื่อที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ใช่ว่าเจสซีเป็นคนโง่ไร้เดียงสา แต่ชีวิตทำให้เขาไม่มีอะไรเหลืออยู่มากนัก เขาจึงต้องการจดหมายนั่น เขาอยากได้คำปลอบโยนให้กำลังใจจากพาเมลา เขาคิดว่าเธอเขียนจดหมายถึงเขาเพียงคนเดียว

แล้วไม่นานนัก พาเมลาก็เริ่มขอให้เขาจ่ายเงินให้เธออาทิตย์ละสิบเหรียญเป็นค่าซองค่าสแตมป์ เขาก็จ่าย เขามีรายได้มากพอควรจากร้านอาหารของครอบครัว เพราะฉะนั้นการจ่ายให้แค่นี้ไม่เป็นปัญหา

ถ้าเจสซีสังเกตสักนิด เขาจะรู้ว่าพาเมลาเขียนถึงเขาแบบ Generalized มากๆ คือเธอพูดถึงเรื่องทั่วๆไป ไม่ได้จำเพาะเจาะจงอะไร ยกเว้นเรียกชื่อเขาเท่านั้น เรื่องมันดูลอยๆ เป็นการให้กำลังใจแบบทั่วๆไป เหมือนกับว่าจดหมายนั้นเขียนขึ้นแบบ Mass Produced

ทว่าเจสซีก็พึงพอใจแล้ว พาเมลาถึงกับส่งรูปของเธอมาให้เขา บอกเขาว่าเวลาอ่านจดหมาย ให้ดูรูปเธอไปด้วย เธอส่งเหรียญนำโชคมาให้ ส่งประภาคารไม้อันเล็กๆมาให้เขา เหมือนเป็นสัญลักษณ์ว่าเธอคือแสงสว่างของเขา

แต่ที่ทำให้คนฟังอย่างผมเศร้ามาก ก็คือการดอนอยากได้เงินมากขึ้นไปอีก เขาเลยสร้างเรื่องเบื้องหลังนางฟ้าพวกนี้ขึ้นมา โดยทำเป็นเทพนิยายจินตนาการ แล้วก็สร้างเป็น Lonely Hearts Club

ในแต่ละปี ดอนมีสมาชิกใหม่หลายร้อยคน รวมๆแล้วเขามีสมาชิกสามหมื่น มีจากทุกสาขาอาชีพ แม้กระทั่งบาทหลวงในนิกายคาทอลิกที่ห้ามมีภรรยา แล้วสมาชิกคนไหนที่ภักดีกับคลับมากๆ ก็จะได้รับคัดเลือกไปพบกับนางฟ้าของตัวเอง

แน่นอน เจสซีได้รับเลือกด้วย

แล้วเขาก็ต้องหัวใจสลาย เมื่อพบว่ามีผู้ชายอื่นที่พาเมลาเขียนจดหมายโต้ตอบด้วยอีกเป็นสิบ แต่กระนั้น เขาก็คิดว่าเป็นตัวเขานี่แหละ ที่พาเมลาตั้งใจเขียนจดหมายหาอยู่คนเดียว เพราะหมาของเธอกระโดดขึ้นตักของเขาสองครั้ง เขาจึงคิดว่าหมาของเธอต้องได้กลิ่นเขาจากจดหมายของเขาแน่ๆ แสดงว่าเธอเป็นผู้เปิดอ่าน

อย่างไรก็ตาม พาเมลาไม่เคยเปิดหรือเขียนจดหมายถึงใคร เธอเป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งของดอนเท่านั้น

เจสซีไม่เคยคิดร้ายกับพาเมลาเลย เขารู้ว่านี่คือการหลอกลวง แต่เขาก็พึงพอใจจะอยู่กับจดหมายของพาเมลาต่อไป เขาอยากได้กำลังใจนั้น จดหมายของเธอที่เขาอ่านในยามค่ำคืนของแต่ละวันทำให้เขามีเรี่ยวแรงที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

แล้ววันหนึ่ง ดอนก็ถูกเปิดโปงเพราะนางฟ้าคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ เขาถ่ายรูปเธอส่งไปให้ผู้ชาย ให้เขาส่งค่ารักษาพยาบาลมาให้ แต่ดอนไม่แบ่งเงินนั้นให้นางฟ้าเลย เธอจึงไปหาตำรวจ ผลลัพธ์ก็คือ เขาต้องขึ้นศาล แต่ที่น่าตื่นตะลึงก็คือ เหยื่อหลายคน (รวมทั้งเจสซีด้วย) มาให้การเพื่อปกป้องดอน

พวกเขาบอกว่าพวกเขาเต็มใจให้ดอนหลอก

พวกเขาไม่อยากไม่ได้รับจดหมายเหล่านั้นอีกต่อไป

คนหนึ่งบอกกับศาลว่า จดหมายจากดอนในนามของนางฟ้า ทำให้เขาเลิกติดเหล้าได้ แต่กระนั้น ศาลก็ตัดสินจำคุกดอนสิบปี พาเมลาก็โดนจำคุกด้วยสองปี ดอนตายในคุกในปี 2014 เมื่ออายุได้ 82 ปี

ทุกวันนี้ เจสซียังคงเก็บประภาคารไม้ชิ้นเล็กๆที่พาเมลาเคยส่งให้เขาเอาไว้ ในห้องนอนของเขายังมีรูปของพาเมลา ใส่ชุดธรรมดาๆ ไม่ได้เซ็กซี่หรือหรูหราอะไร เจสซีบอกว่า รูปนั้นคือรูปที่เป็นตัวเธอที่สุดแล้ว และเรื่องสุดท้ายที่เขาอยากจะพูดถึงเกี่ยวกับพาเมลาก็คือ อย่างน้อยที่สุดในชีวิตนี้ของเขา เขาก็เคยมี ‘เพื่อน’

It’s just a little something to say, I made a friend.

สำหรับผม Podcast ตอนนี้เศร้ามาก มันบดขยี้หัวใจของคนฟังให้แหลกสลายเมื่อได้เรียนรู้ว่าคนเราสามารถจะโดดเดี่ยวเดียวดายมากมายได้มากเพียงใด