หลายปีที่แล้ว ได้ไปเดินเขาที่ฮ่องกงเป็นครั้งแรก เคยลองสรุป Hiking in Hong Kong เอาไว้คร่าวๆ เลยอยากนำมาบันทึกไว้ตรงนี้ครับ
1. เส้นทางที่เดินขึ้น Victoria Peak ไม่ธรรมดาเท่าไหร่ ถ้าเดินจริงๆก็นับว่าโหดอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเขาฮ่องกงเทรลที่ยาวราวห้าสิบกิโลเมตร
2. เส้น Victoria Peak จริงๆแล้วเป็นหนึ่งเดียวกับเส้น Dragon’s Back เพราะเป็นส่วนหนึ่งของ Hong Kong Trail เหมือนกัน สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ โดย Victoria Peak เป็นช่วงเริ่มต้น ส่วน Dragon’s Back (จาก To Tei Wan ไป Tai Long Wan หรือจะเลยไปถึง Big Wave Bay ก็ได้) เป็นช่วงสุดท้าย
3. โดยส่วนตัวไม่ฟินกับ Dragon’s Back เท่าไหร่ อาจเป็นเพราะเป็นวันหยุด คนเลยเยอะมากก็ได้ แต่ทำให้เห็นเลยว่า คนฮ่องกงที่ชอบ Hike นั้นมีตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดงจนถึงคนเฒ่าคนแก่
4. คำแนะนำในการเดินเขาบอกว่า Dragon’s Back เป็นเส้นทางอยู่ในระดับสามดาว คือยาก แต่เอาเข้าจริงไม่ได้ยากเลย ออกจะง่ายด้วยซ้ำไป เส้นทางสวยงาม เดินได้ไม่ยากนัก เดินสามสี่ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว
5. คนที่พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยาที่เมือง Sai Kung (อันเป็นเมืองท่าริมทะเลแสนสวย) บอกว่าที่บริเวณ Sai Wan เป็นภูเขาไฟระเบิดขนาดมหึมา แล้วเถ้าลอยจากที่นี่ไปปกคลุม Dragon’s Back ทำให้ที่นั่นมีแร่ธาตุต่างๆคล้ายๆกัน
6. แนะนำว่าให้ติดชุดว่ายน้ำไปด้วย เพราะถ้าเดิน Dragon’s Back เสร็จแล้ว สามารถไป Big Wave Bay ได้เลย ที่นั่นว่ายน้ำสนุก คลื่นโต (สมชื่อ) เล่นเซิร์ฟได้ดีงามมาก มีคนเล่นเซิร์ฟมากมายหลายคน
7. เส้นทาง Trail ในฮ่องกงที่สำคัญๆน่าจะคือ Hong Kong Trail บนเกาะฮ่องกง กับ Maclehose Trail (เป็นชื่อของผู้ว่าการเกาะฮ่องกงคนสำคัญที่ชอบเดินเขา และเป็นคนสร้างอะไรๆให้ฮ่องกงมากมาย) ซึ่งอยู่ใน New Territory
8. เส้นทาง Maclehose Trail ที่ได้ไปเดิน คือจาก East Dam (เขื่อนที่อยู่ทางตะวันออก) บนเกาะไฮ (High Island) ไปสิ้นสุดที่ Sai Wan Pavillion (ซึ่งยังไม่ใช่ Sai Wan จริงๆ) ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเส้นทางที่ ‘ฟิน’ มากๆ
9. ความฟินเกิดขึ้นเพราะบริเวณนี้เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่มหึมาที่ระเบิดขึ้นในสมัยก่อน (น่าจะจูราสซิก) เลยมีหินบะซอลต์เป็นผลึกรูปหกเหลี่ยม และมีภูมิประเทศน่าสนใจมากๆ
10. เส้นทาง Maclehose Trail ยากกว่า Dragon’s Back แต่ยังไม่ถึงขั้นเส้นขึ้นคุโรดาเกะที่ฮอกไกโดที่เคยไปเมื่อสองปีที่แล้ว และสวยงามดีอยู่ เพราะผ่านชายหาด (ซึ่งต้องไต่จาก 300 กว่าเมตรลงไปที่หาด แล้วไต่ขึ้นอีก 300 กว่าเมตร) ชายหาดของฮ่องกง (หาด Long Ke Wan) สร้างความตะลึงให้เล็กน้อย เพราะทรายขาวมาก น้ำใสมาก ราวกับอันดามัน แถมอากาศยังไม่ร้อนเหมือนอันดามันด้วย แต่ไม่มีรถเข้าถึง ต้องไปทางเรือ หรือไม่ก็เดินข้ามเขาไป แต่พบว่ามีวัยรุ่นมากางเต๊นท์นอนกันเพียบ
11. ระหว่างทางบน Maclehose Trail เจอพ่อแม่พาลูกมาเดินสองสามราย ครอบครัวหนึ่ง ลูกอายุสักห้าขวบคนหนึ่ง แล้วก็สักสิบขวบอีกคนหนึ่ง ทั้งคู่เดินกันเอง พ่อแม่ไม่ได้อุ้ม เป็นการสอนลูกให้รู้จัก Hiking ตั้งแต่เด็ก ดูๆไปเด็กก็สนุกกับการเดินไม่น้อย คนพี่เอาตุ๊กตุ่นรูปวาฬและฉลามมาด้วย ฝรั่งข้างๆคุยกับเด็กคนนี้ ปรากฎว่าเด็กคนนี้รู้จักวาฬเกือบทุกสายพันธุ์ ตั้งแต่วาฬหลังค่อม วาฬสีน้ำเงิน วาฬบาลีน วาฬเพชฌฆาต ฯลฯ เขาบอกว่าชอบวาฬหลังค่อมและวาฬสีน้ำเงินที่สุด (เฮ้ย! เหมือนลุงเลย :p ) เป็นเด็กที่ไม่ขี้คุย เงียบๆ แต่เมื่อถามก็ตอบชัดถ้อยชัดคำ ในแววตามีความรักชอบในสัตว์ทะเลจริงๆ ถ้ามีลูก ก็อยากให้ลูกเป็นแบบนี้ (เลยไม่อยากมี)
12. ยอดเขา Sharp ที่มองจาก Maclehose Trail นั้นน่าสนใจมาก เพราะดูเหมือนยอดมงบลองต์เลย
13. ชอบ New Territory มาก น่าอยู่ ดูเหมือนเชียงใหม่ที่อยู่ติดทะเล
14. นอกจากสองเส้นทางที่ว่าแล้ว เส้นทางเดินเขาบนเกาะลันเตาก็ดีมาก มีหลายยอดให้เดินขึ้นไป วิวสวยมาก
15. ฮ่องกงมีอะไรน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะทางธรรมชาติและธรณีวิทยา ประหลาดใจว่าคนไทยไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ทั้งที่คนฮ่องกงแอ็คทีฟเรื่องพวกนี้มากๆ อย่างเส้นทาง Maclehose Trail ช่วงแรกก่อนถึง East Dam ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตนั้น เราเห็นคนเดินเป็นสิบเป็นร้อยคน (แต่เรานั่งแท็กซี่ไปนะ 555 เพราะเวลาน้อย เลยตัดครึ่งไปเริ่มเดินที่ East Dam เลย)
16. จริงๆแล้ว ฮ่องกงไม่ได้มีแค่การช็อปปิ้งหรือการกินเท่านั้น แต่ Perception เรื่องนี้มัน ‘แรง’ เสียจนเราไม่เคยสนใจฮ่องกงในแง่ธรรมชาติมาก่อนเลย ซึ่งน่าเสียดายมากหากจะมาฮ่องกงแค่มากิน ช็อปฯ หรือไหว้พระเท่านั้น แต่ก็อาจเป็นเพราะวิถีชีวิตในสังคมไทยไม่ได้สอนให้เรามองโลกหลากแบบมากนักก็ได้ เราจึงเห็นฮ่องกงได้แค่นี้ ซึ่งคงไม่ใช่ความผิดของใคร นอกจากของเราเอง