Shortbread ขนมแห่งความฝัน

1

ในบรรดาคำเรียกขานชอร์ตเบรด ผมชอบถ้อยคำในภาษาสวีเดนมากที่สุด ชาวสวีดิชเรียกชอร์ตเบรดว่า ดรอมมาร์ (drömmar) ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า ความฝัน

ผมไม่คิดว่าจะมีขนมอะไรเหมาะกับมื้อน้ำชายามบ่ายมากยิ่งไปกว่าชอร์ตเบรดอีกแล้ว

ไม่, แม้แต่กับสโคน

 

2

ในเวลาที่ฤดูหนาวดูอึมครึม ผมชอบคิดถึงชอร์ตเบรด บางทีอาจเพราะชอร์ตเบรดมีกำเนิดอยู่ในภูมิศาสตร์อันอึมครึมก็ได้ สำหรับผมและอีกหลายคน สก็อตแลนด์เป็นดินแดนแห่งความอึมครึม เมฆมักคล้อยเคลื่อนอยู่บนท้องฟ้า แล้วโปรยสายฝนไม่เหมือนใครลงมา เป็นฝอยฝนละเอียดเบาเหมือนการปลอบโยน

ที่จริงแล้ว ความฝันก็เป็นเรื่องอึมครึมด้วยเหมือนกัน

ในเวลาที่เราฝัน ไม่มีเส้นแบ่งของความจริงวางตัวอยู่ตรงไหน เราอาจรู้สึกว่ามันไม่จริง เราอาจรู้สึกเหมือนอยู่ในฝัน แต่ไม่ช้านัก เราก็จะถูกความฝันกลืนกินจนเลือนหายไปในโลกใบนั้น โลกที่จริงหรือไม่-ไม่มีใครรู้

เมื่อความฝันเกิดขึ้นกับเรา เราจะทำอะไรกับมันได้ วิ่งหนีหรือ หรือปล่อยให้มันเกิดขึ้น และครุ่นคำนึงกับมัน ว่าชีวิตที่หลงเหลืออยู่ในความฝันจะเป็นอย่างไร ใครบางคนบอกว่า ความฝันคือสิ่งจริงแท้ สิ่งที่ไม่จริงอย่างที่สุด ก็คือการไม่สามารถตระหนักรู้ได้ว่า ความฝันคือความจริง

เวลาอยู่ในสก็อตแลนด์ ผมชอบมองดูปล่องไฟของบ้านเรือน ปล่องไฟมากมายรายเรียง ก่อเกิดรอยหยักสลักเสลาเส้นขอบฟ้า แลดูเหมือนยอดปราสาทในเทพนิยาย ทั้งที่แท้จริงแล้วเป็นแค่ปล่องไฟของบ้าน

และบางทีอาจเป็นบ้านของคนที่กำลังหนาวเหน็บ และพยายามคิดว่า ชีวิตของตัวเองคือความฝัน

 

3

ชอร์ตเบรดเป็นขนมแห่งความฝัน บางทีอาจเพราะมันมีกำเนิดในสก็อตแลนด์ ดินแดนที่เทพนิยาย นางฟ้า ภูติ และปีศาจคอยหลอนหลอกอยู่ในท้องทุ่งกว้าง ชอร์ตเบรดอุบัติขึ้นจากขนมปังกรอบในยุคกลาง กลายร่างมาเป็นชอร์ตเบรดที่มีลักษณะนุ่มละมุนไม่เหมือนใคร

 ชอร์ตเบรดถูกเรียกว่าชอร์ตเบรด ก็เพราะมันมีปริมาณของไขมันหรือเนยอยู่มาก และเนยก็ไปยับยั้งไม่ให้โปรตีนก่อตัวเป็นสายยาวอย่างที่เรียกกันว่า กลูเทน (Gluten) ผู้คนจึงเรียกมันว่าชอร์ตเบรด หรือขนมปังที่มีโปรตีนสายสั้น และเรียกไขมันหรือเนยที่ทำหน้าที่เช่นนี้ว่า ชอร์ตเทนนิง (Shortening)

 

4

ผมชอบทำชอร์ตเบรดในบ่ายวันอาทิตย์ ด้วยส่วนผสมง่ายๆ น้ำตาลหนึ่งส่วน เนยสองส่วน และแป้งสามส่วน มันจะออกมาเป็นชอร์ตเบรดสูตรดั้งเดิมที่ร่วน

ชอร์ตเบรดต้องการการอบด้วยไฟอ่อน เพื่อไม่ให้มันเปลี่ยนสีเกรียมไหม้ ชอร์ตเบรดที่สุกแล้วจะยังคงมีสีอ่อนเกือบขาว และคงคุณสมบัติความร่วนเอาไว้ดังเดิม จนเมื่อเราจะปล่อยให้มันเย็น และนำไปแช่ไว้ในตู้เย็นแล้วนั่นต่างหาก ที่ความร่วนจะหายไป ชอร์ตเบรดจะจับตัวแข็งมากขึ้น

ผู้คนนิยมทำรูปร่างของชอร์ตเบรดสามแบบ แบบหนึ่งคือเป็นแท่ง อีกแบบคือเป็นรูปกลม และแบบที่ผมชอบทำมากที่สุด ก็คือการทำเป็นรูปกลมขนาดใหญ่ ก่อนจะตัดให้เป็นชิ้นสามเหลี่ยม แต่กระนั้น ผมก็ไม่ชอบชื่อของชอร์ตเบรดรูปสามเหลี่ยมเอาเสียเลย

ว่ากันว่า ควีนแมรี่แห่งสก็อตแลนด์เรียกชอร์ตเบรดรูปสามเหลี่ยมนี้ว่า ปัตติโค้ตเทล (Petticoat Tail) หรือชายหางปัตติโค้ต ซึ่งก็คือชุดชั้นในของผู้หญิง

 

5

อริสโตเติลบอกว่า ความหวังก็คือความฝันที่ตื่นขึ้น

อาจจริงก็ได้ หากเราเชื่อว่าเรามีชีวิตอยู่ในความเป็นจริง เพราะมีแต่เชื่อเช่นนั้น เราจึงจะเชื่อได้ว่า การตื่นขึ้นจากความฝัน คือการตื่นขึ้นสู่ความจริง และการขวนขวายทำสิ่งต่างๆตามที่เราเห็นในความฝันอันงดงาม ก็จะทำให้โลกแห่งความจริงนี้ดีงามขึ้น กระทั่งละม้ายเหมือนโลกแห่งความฝันนั้นได้

แต่เพราะเหตุใดเล่า เราจึงมักเห็นว่าโลกแห่งความฝันนั้นคืออุดมคติ

มิใช่ว่า โลกแห่งความฝันก็คือภาพจำลองของโลกที่เราอยู่หรอกหรือ

หรือว่ากลับกัน…

บ่ายอันอึมครึมนั้น เมื่อชงชา และวางชอร์ตเบรดลงในจาน ผมจึงตระหนักกับตัวเองว่า บางทีพระเจ้าอาจชอบความอึมครึมของความฝัน และรักความคลุมเครือของความจริงก็ได้,

ใครจะรู้

 

 


Shortbread Refined

ชอร์ตเบรดอาจมีกำเนิดจากขนมปังบิสกิตในยุคกลางก็จริงอยู่ แต่ว่ากันว่าผู้ที่ทำให้ชอร์ตเบรดมีคุณลักษณะดีเยี่ยมเหมือนในปัจจุบัน ก็คือควีนแมรี่แห่งสก็อตแลนด์ ในศตวรรษที่ 16
ในช่วงแรก ชอร์ตเบรดคือขนมราคาแพง และสงวนไว้เป็นของหรูหราสำหรับโอกาสพิเศษ เช่นคริสต์มาส หรือวันส่งท้ายปีเก่าแบบสก็อตที่เรียกว่า Hogmanay และงานแต่งงานเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชอร์ตเบรดก็สามัญมากขึ้น และเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยดัดแปลงกันไปหลากหลายสูตร

 


Between Shortbread & Scone

เรื่องน่ารักระหว่างชอร์ตเบรดกับสโคน เกิดขึ้นในปี 1996
ชอร์ตเบรดนั้น ถือกันว่าเป็นของสก็อตแลนด์ ส่วนชาวอังกฤษมีสโคนเป็นสมบัติ แต่ในปี 2006 เมื่อออสเตรียจัดงานวัน Europe Day ขึ้น และแต่ละประเทศต้องไปออกร้านใน Café Europe ปรากฏว่า สก็อตแลนด์เลือกให้สโคนเป็นขนมตัวแทนประเทศ ขณะที่อังกฤษเลือกชอร์ตเบรด
การ ‘เลือก’ อันสลับไขว้และชวนให้เส้นแบ่งแห่งขนมพร่าเลือนคลุมเครือนี้ จึงแสดงตัวตนที่น่ารักระหว่างชอร์ตเบรดกับสโคนออกมาได้อย่างงดงาม