ความซ้ำซากของชีวิต

 

1

ยังมีร้านกาแฟอยู่แห่งหนึ่ง

ในวันอันอบอ้าว ผมไปที่นั่น และได้พบกับเขาเป็นครั้งแรก เขายิ้มให้แต่ไกล อยู่ในม่านหมอกของเครื่องทำไอน้ำสมัยใหม่ที่พ่นละอองฟู่ออกมา ดูเผินๆเหมือนหมอกในป่าใหญ่

แต่ไม่ใช่หรอก

มันคือหมอกประดิษฐ์

เป็นแค่ไอละอองของน้ำที่พยายามทำตัวให้สะอาดบริสุทธิ์ แต่ถ้ามันลองไปต้องแก้มบอบบางของใครสักคน อีกวันผื่นก็อาจขึ้น

 

2

นี่คือชีวิตในเมือง

สำหรับผม ชีวิตในเมืองล้วนซ้ำซาก

มีเรื่องเดิมๆเกิดขึ้นกับเราเสมอ มันเกิดขึ้นเพื่อจะดับไป แล้วเกิดขึ้นใหม่ด้วยเนื้อหาสาระเดิม

รูปแบบอาจเปลี่ยนไป เพราะนักการตลาดเป็นคนขี้เหงา พวกเขาไม่กล้าและไม่อยากให้ใครอยู่เดียวดาย จึงสร้างรูปแบบของเรื่องราวต่างๆ ขึ้น เพื่อดึงมนุษย์ให้สนใจ หูผึ่ง ตาโต และอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ในเมือง

ผู้คนในเมืองจึงมีชีวิตอยู่กับเนื้อหาซ้ำๆ ลีลาซ้ำๆ แม้รูปแบบที่ร่ำลือว่าใหม่ เมื่อพิจารณาดูอย่างถ่องแท้แล้วก็จะเห็นร่องรอยที่มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ดุ่มเดินอยู่ในความคิดสร้างสรรค์นั้น

สำหรับผม กำเนิดของเมืองใหญ่ไหนๆ ไม่เคยเหมือนกัน ชีวิตในเมืองใหญ่ต่างถิ่นที่ สร้างตัวขึ้นจากฉากหลังทางภูมิศาสตร์เป็นเบื้องต้น ตามด้วยการรวมตัวเชิงสังคม ปั้นแต่งวัฒนธรรม ยึดถือมัน ปลดปล่อยมัน สร้างคุณค่าทั้งแท้เทียมให้กับมัน ทุกเมืองจึงมีตัวตนเฉพาะ – ไม่เคยเหมือนกัน

แต่ไม่ใช่ชีวิตในเมืองทุกวันนี้

 

3

ทุกวันนี้ ทุกเมืองที่ร้อนมีเครื่องสร้างละอองไอประดิษฐ์ และละอองไอประดิษฐ์จากพัดลมไอน้ำก็มักทำให้ผื่นขึ้นที่แก้ม ไม่ว่าน้ำนั้นจะมาจากเมืองไหน

เพราะนี่คือชีวิตในเมือง

เพราะมันคือสิ่งประดิษฐ์

ที่จริง ความละมุนละไมก็เป็นสิ่งประดิษฐ์

กระทั่งความรักก็เป็นสิ่งประดิษฐ์

ทั้งยังเป็นสิ่งประดิษฐ์อันซ้ำซาก

แต่กระนั้น แม้เราจะรู้ว่าสิ่งรายล้อมรอบตัวเราในเมืองใหญ่ – และในโลก, ล้วนเป็นสิ่งประดิษฐ์ และเป็นสิ่งประดิษฐ์ซ้ำซากที่พาเราหมุนวนย่ำอยู่กับที่ไม่รู้แล้ว แต่เราก็อดไม่ได้ ที่จะมองหาความงามจากความซ้ำซากนั้นอยู่ซ้ำๆ

ซ้ำๆ และซ้ำๆ

แม้เราจะมีชีวิตอยู่ในโลกของสิ่งประดิษฐ์ซ้ำซาก แต่ในวันที่เราซ้ำซากอยู่กับความคิดหมกมุ่นไม่รู้แล้ว เราก็มักอยากพบเห็นสิ่งประดิษฐ์นั้นซ้ำๆบ่อยๆ

โดยเฉพาะสิ่งประดิษฐ์อันละมุนละไม,

และทำให้เราได้ย้อนกลับไปทำความรู้จักกับความรักอันซ้ำซาก – อีกครั้งหนึ่ง